เรียนพิเศษจำเป็นไหม? ตอบตัวเอง 6 ข้อนี้ให้ได้ก่อนไปเรียน
คำถามข้อที่ 1 : เรียนพิเศษเพราะอะไร?
เป็นข้อแรกที่ต้องตอบตัวเองให้ได้ น้องๆ มีเหตุผลมากพอที่จะต้องเสียเงินเรียนหรือเปล่า เช่น เรียนในห้องเรียนแล้วไม่รู้เรื่องเลย กลับมาอ่านเองยิ่งเหมือนตกนรกทั้งเป็น หรือ จำเป็นต้องเตรียมตัวสอบอะไรเป็นพิเศษ ถ้ายังตอบตัวเองไม่ได้หรือตอบได้ไม่เต็มปาก ประมาณว่าเรียนก็ได้ ไม่เรียนก็ได้, อยากเรียนเฉยๆ แนะนำว่าหาหนังสือมาอ่านเพิ่ม หรือใช้เวลาช่วงปิดเทอมเข้าห้องสมุดเอง ไม่จำเป็นต้องไปเรียนพิเศษหรอก เพราะการต้องออกไปเรียนตามกวดวิชา บางทีก็ไม่ได้ผลเสมอไป
คำถามข้อที่ 2 : พ่อแม่ต้องลำบากกว่าเดิมหลายเท่าไหม
กวดวิชาไม่ได้เรียนกันฟรีๆ นอกจากค่าเรียนแล้วที่ตกคอร์สละหลายพันแล้ว อย่าลืมว่ายังมีค่าหนังสือ(บางทีมีหนังสือเสริม) ค่าเดินทาง ค่าข้าวกลางวัน ตกเฉลี่ยวันละ 100 บาท เดือนนึงก็ปาเข้าไปอย่างต่ำ 3,000 บาท ยิ่งถ้ากวดวิชาอยู่ย่านเจริญๆ ค่าครองชีพยิ่งแพง ซึ่งรายจ่ายทั้งหมดนี้ก็เงินพ่อแม่ทั้งนั้นแหละค่ะ
ดังนั้นก่อนจะเรียนพิเศษคิดสักนิดว่าคอร์สที่เราเรียนนั้นแพงเกินไปจนเดือดร้อนเงินในกระเป๋าพ่อแม่หรือเปล่า ถ้าคิดว่าไม่จำเป็นเรียนเท่าไหร่และก็เปลืองเงินคุณพ่อคุณแม่ด้วย ก็อ่านหนังสือเพิ่มเอาเองก็ได้ แต่ถ้าไม่เดือดร้อนและพ่อแม่ก็เต็มใจให้เรียนหรือช่วยแบ่งเบาค่าเรียนพิเศษของพ่อแม่ได้ ก็เรียนได้เลยตามความต้องการ แต่ก็ต้องเรียนให้คุ้มค่าเงินด้วยนะ
คำถามข้อที่ 3 : เรียนเพราะตามเพื่อนหรือเปล่า
เห็นเพื่อนเรียนก็อยากจะเรียนตามเขา เพื่อนไปเรียนก็อยากไปนั่งเรียน นั่งเล่นกับเขา เพราะไม่อยากปิดเทอมอยู่บ้านเหงาๆ คนเดียว ส่วนเรื่องเรียนเป็นจุดประสงค์รองลงมา ใครมีความคิดแบบนี้อยู่แสดงว่าไม่ได้สนใจเรียนจริงๆ แนะนำว่าถ้าไม่อยากปิดเทอมอยู่บ้านคนเดียว นัดเที่ยวกับเพื่อนอาทิตย์ละครั้งก็ได้ค่ะ ส่วนวันอื่นๆ ก็อยู่บ้านดูทีวี อ่านหนังสือเล่นๆ ก็ผ่อนคลายสมองได้ดี
คำถามข้อที่ 4 : ไปเรียนแล้วจะโดดเรียนมั้ย
การเรียนบ้าง โดดบ้างตามใจฉัน เปลืองเงินพ่อแม่แน่นอน ฉะนั้นก่อนลงเรียนพิเศษลองถามความรู้สึกตัวเองดูอีกครั้งว่าอยากเรียนพิเศษจริงๆ หรือเปล่า ถ้าเรียนแล้วไม่รู้เรื่องจะแก้ปัญหายังไง จะโดดเรียนมั้ย ให้นึกตลอดว่าทุกๆ คาบเรียนคือ "เงิน" ของพ่อแม่ทั้งนั้น โดด 1 ครั้งก็เสียเงินฟรีไปหลายร้อย ดังนั้นถ้ารู้ตัวว่าเรียนแล้วโดดแน่ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องเรียนก็ได้ แต่ถ้ามั่นใจว่าเรียนแล้วคุ้ม ไม่โดด ไม่สาย ไม่ลาแน่ๆ ก็หาคอร์สเรียนได้เลย
คำถามข้อที่ 5 : วิธีเรียนอื่นๆ ล่ะ มีไหม?
การเรียนเสริมไม่ได้มีเฉพาะการกวดวิชาตามสถาบันกวดวิชาต่างๆ เท่านั้น เพราะหลายๆ หน่วยงานก็มีโอกาสจัดติวฟรีให้กับน้องๆ แต่วิธีนี้น้องๆ ต้องเป็นคนติดตามข่าวสารสักหน่อย เพราะการติวฟรีต้องอาศัยความไว รู้ข่าวก่อนก็จองที่นั่งได้ก่อน
นอกจากนี้หลายๆ เว็บไซต์ยังเป็นแหล่งความรู้ชั้นดี มีการรวบรวมเนื้อหาการเรียนแต่ละระดับเอาไว้ครบถ้วนทั้งรูปแบบบทความ วีดิโอ คลิปต่างๆ มีแบบฝึกหัดออนไลน์ให้ทำด้วย น้องๆ ก็หาความรู้นอกห้องเรียนผ่านวิธีการต่างๆ เหล่านี้ได้ นอกจากจะได้ความรู้เหมือนกันแล้ว ยังไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปเรียนตามกวดวิชาอีกด้วย ที่สำคัญยังสามารถทบทวนจนกว่าจะเข้าใจได้
คำถามข้อที่ 6 : ถ้าไม่เรียนล่ะ เป็นอะไรมั้ย
ถ้าได้คำตอบว่า "ถ้าไม่เรียน เทอมหน้าต้องอาการหนักแน่เลยเพราะเทอมที่ผ่านมาเรียนไม่รู้เรื่องเลย" หรือ "ถ้าไม่เรียน เราต้องไม่รู้แนวการสอบแน่ๆ เลย" เมื่อเห็นผลเสียของการไม่เรียนมากกว่าก็ช่วยให้ตัดสินใจได้ว่า "ลงรียนพิเศษน่าจะดี"
แต่ถ้าถามแล้วได้คำตอบว่า "ไม่ได้เรียนแล้วอายเพื่อน" "ไม่ได้เรียนแล้วรู้สึกเชย" หรือ "ไม่ได้เรียนแล้วอดได้เงินช่วงปิดเทอม" อันนี้ก็แนะนำว่าให้อยู่บ้านรดน้ำต้นไม้ยังมีประโยชน์เสียกว่าค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น